8 เทคโนโลยีทีวีที่น่าจับตามอง

8 เทคโนโลยีทีวีที่น่าจับตามอง
โลกของทีวีไม่เคยหยุดพัฒนา จากจอตู้หนักๆ สู่ Smart TV ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ทีวีไม่ได้เป็นแค่ “จอแสดงผล” อีกต่อไป แต่กลายเป็นศูนย์กลางความบันเทิง บ้านอัจฉริยะ และแหล่งคอนเทนต์ล้ำยุคในเครื่องเดียว


Iconic TV Thailand จะพาไปสำรวจ 8 เทคโนโลยีทีวีสุดล้ำที่น่าจับตามองในปี 2025 ไม่ว่าจะเป็นจอ MicroLED ที่ให้ความสว่างและสีสันสมจริงเหนือ OLED, ระบบ 8K AI Upscaling ที่ทำให้คอนเทนต์ธรรมดาคมกริบใกล้เคียงต้นฉบับ 8K, การเชื่อมต่อ IoT อัจฉริยะผ่านมาตรฐาน Matter, หรือแม้แต่ระบบเสียง Dolby Atmos แบบไร้สายที่จะยกระดับห้องนั่งเล่นให้กลายเป็นโรงหนังส่วนตัว
ยังมีดีไซน์ Zero Bezel ไร้ขอบบางเฉียบ, โหมดถนอมสายตา Eye Care Mode 3.0, Cloud Gaming ในตัวสำหรับเกมเมอร์ และโหมดประหยัดพลังงาน Eco-Friendly Smart Power Saving สำหรับคนรักโลก

สรุปสั้น 8 เทคโนโลยีทีวีที่น่าจับตามอง
• MicroLED Display ความละเอียดระดับ 8K และ 16K
• 8K AI Upscaling ช่วยปรับคอนเทนท์ Full HD, 4K ให้คมชัดบนจอ 8K
• Matter ใช้จอทีวีเป็นแดชบอร์ดแสดงสถานะอุปกรณ์ IoT
• Dolby Atmos Wireless Sound Integration เชื่อมต่อลำโพงแบบไร้สาย
• Eye Care Mode 3.0 โหมดถนอมสายตา เช็กแสงแบบ Real Time
• Zero Bezel Display Design ทีวีไร้ขอบ เสริมลุคมินิมอล
• Cloud Gaming Built-in เปลี่ยนทีวีเป็นเครื่องเกมคอนโซล
• Eco-Friendly Smart Power Saving ประหยัดไฟ รักษ์โลก


8 เทคโนโลยีทีวีที่น่าจับตามอง

1. MicroLED Display
MicroLED เป็นเทคโนโลยีการแสดงผลที่พัฒนาขึ้นจาก OLED โดยใช้หลอดไฟ LED ขนาดเล็กมาก (ระดับไมครอน) ที่สามารถเปล่งแสงได้เองโดยไม่ต้องใช้ Backlight ทำให้ได้ภาพที่ดำสนิท สีสด ความสว่างสูง อายุการใช้งานยาวนานกว่าจอ OLED และไม่มีปัญหาเรื่อง Burn-In เหมาะกับทีวีระดับพรีเมียมขนาดใหญ่ 75-100 นิ้ว หรือจอแสดงผลอัจฉริยะในบ้าน และในธุรกิจ (Video Wall, ป้ายโฆษณา) รองรับคอนเทนต์ความละเอียดระดับ 8K และ 16K

2. 8K AI Upscaling
ทีวี 8K เริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น แต่ยังมีคอนเทนต์ที่มารองรับน้อยอยู่ เทคโนโลยี AI Upscaling จะยกระดับคอนเทนต์ความละเอียดต่ำกว่า 8K (Full HD, 4K) ให้แสดงผลบนจอ 8K ได้คมชัดและใกล้เคียงต้นฉบับระดับ 8K มากที่สุด ลดปัญหาภาพแตก ภาพเบลอ บนหน้าจอขนาดใหญ่ AI Upscaling จะวิเคราะห์ภาพต้นฉบับแบบพิกเซลต่อพิกเซล และเติมรายละเอียด, ลด noise ปรับเฉดสี คอนทราสต์ให้เหมาะกับการแสดงผลบนจอ 8K

3. Matter และ IoT Ecosystem Integration
Matter เป็นมาตรฐานกลาง (Open Standard) สำหรับอุปกรณ์สมาร์ตโฮมที่พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทใหญ่ เช่น Google, Apple, Amazon, Samsung ให้ทุกอุปกรณ์ IoT ใช้งานร่วมกันได้โดยไม่ติดยี่ห้อ เช่น เชื่อมต่อเซ็นเซอร์, กล้อง, สมาร์ตปลั๊ก, ลำโพงอัจฉริยะ ฯลฯ ผ่าน Matter และใช้จอทีวีเป็นแดชบอร์ดแสดงสถานะอุปกรณ์ทุกอย่างในบ้าน ควบคุมแอร์และม่านไฟฟ้าผ่านจอทีวี สร้างระบบ Smart Living จริงจังจากทีวีเครื่องเดียว กลายเป็นศูนย์กลางอัจฉริยะในบ้าน (Smart Home Hub)

4. Dolby Atmos Wireless Sound Integration
Dolby Atmos คือ ระบบเสียง 3 มิติแบบรอบทิศทาง ไม่ใช่แค่มาจากซ้าย-ขวา หรือหน้า-หลัง แต่รวมถึงจากด้านบน-ด้านล่าง ให้เสียงโอบล้อมตัวเราเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง เพิ่มความสมจริงระดับโรงหนัง ปกติระบบ Atmos ต้องใช้ลำโพงหลายตัวติดตั้งรอบห้อง แต่ก้าวต่อไปของมันคือแบบไร้สาย หรือ Wireless Sound Integration เชื่อมต่อลำโพง 10-12 ตัวแบบไร้สาย ปรับแต่งตำแหน่งเสียงได้ผ่านแอปทีวี และรองรับเสียง AI Spatial Audio ปรับทิศทางเสียงอัตโนมัติ

5. Eye Care Mode 3.0
Eye Care Mode 3.0 เป็นโหมดถนอมสายตาป้องกันอาการล้าตา เมื่อดูในที่มืดหรือดูต่อเนื่องหลายชั่วโมง รุ่น 1.0 ปรับลดแสงสีฟ้าคงที่ รุ่น 2.0 ปรับระดับความสว่าง-คอนทราสต์อัตโนมัติตามสภาพแสงในห้อง ปัจจุบันเป็นรุ่น 3.0 มีฟีเจอร์ AI Ambient Sensing เช็กแสงในห้องแบบ Real Time ปรับแสงหน้าจอให้พอดี, Low Blue Light Pro ลดแสงสีฟ้าเฉพาะช่วงคลื่นอันตราย, Adaptive Contrast Optimizer ปรับคอนทราสต์และโทนสีตามคอนเทนต์, Flicker-Free 100% หน้าจอไม่มีการกระพริบ

6. Zero Bezel Display Design
Zero Bezel Display Design คือ เทรนด์การออกแบบทีวีที่ ลดขนาดขอบจอ (Bezel) จนแทบจะไม่มีกรอบเหลือให้เห็น ทำให้ภาพบนจอดูเหมือนลอยอยู่กลางอากาศ ช่วยเพิ่มความรู้สึกดื่มด่ำขณะรับชมมากขึ้นกว่าเดิม ทีวีแบบ Zero Bezel ขอบจอจะเหลือเพียง 1-2 มม. หรือไม่มีขอบเลย มักใช้กระจกชนิดพิเศษปิดคลุมทั้งแผงหน้าจอ นอกจากนี้ยังช่วยให้ติดผนังได้เนียนเหมือนวอลเปเปอร์ เสริมลุคมินิมอล โมเดิร์นให้บ้าน หรือใช้เป็น Digital Art Frame ก็ได้เช่นกัน

7. Cloud Gaming Built-in
Cloud Gaming Built-in ฟังก์ชันสุดเจ๋งที่ทำให้เล่นเกมระดับ AAA บนทีวีได้ทันทีผ่านอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องมีคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเกมคอนโซลอีกต่อไป มันเป็นบริการเล่นเกมผ่านการสตรีมจากเซิร์ฟเวอร์กลางเหมือนการดู Netflix แต่เป็นเกมแทน เกมใหญ่ๆ แบบ Cyberpunk 207, Assassin’s Creed ก็สามารถเล่นบนทีวีได้ พร้อมรองรับจอยเกมไร้สาย และ Wi-Fi 6/6E สำหรับการเล่นเกมออนไลน์ ให้ภาพระดับ 4K HDR เล่นเกมลื่นๆด้วย refresh rate 60fps

8. Eco-Friendly Smart Power Saving
Eco-Friendly Smart Power Saving หรือเรียกง่ายๆว่าโหมดรักษ์โลก ที่ไม่ได้แค่ลดค่าไฟในบ้าน แต่ยังออกแบบมาเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ ปกติทีวีทั่วไปจะใช้พลังงานเท่าเดิมเสมอ แต่ทีวีรุ่นใหม่จะปรับการใช้พลังงานตามสถานการณ์ได้ เช่น ปรับลดความสว่างอัตโนมัติ เมื่อดูในห้องมืด หรือช่วงเวลากลางคืน หรือ เซ็นเซอร์ตรวจจับคน ถ้าไม่มีคนอยู่หน้าจอ จะหรี่ไฟหรือปิดจออัตโนมัติ รวมถึงการใช้วัสดุรีไซเคิลและส่วนประกอบปลอดสารพิษ

สรุป 8 เทคโนโลยีทีวีที่น่าจับตามอง
เทคโนโลยีจะเปลี่ยนให้ทีวีธรรมดาๆ กลายเป็นศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นด้านการแสดงผลภาพ MicroLED Display และ 8K AI Upscaling จะขับให้ภาพคมชัดสูงมาก หรือระบบเสียงแบบ Dolby Atmos Wireless Sound Integration ที่ถ่ายทอดมิติเสียงได้แบบโรงหนังด้วยระบบไร้สาย
ทีวีเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เปลี่ยนบ้านเป็นสมาร์ตโฮมด้วย Matter ระบบควมคุมอุปกรณ์สมาร์ตโฮมให้มาแสดงผลผ่านทีวี หรือจะเปลี่ยนทีวีเป็นเครื่องเกมคอนโซล ด้วยบริการ Cloud Gaming Built-in


นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Zero Bezel Display Design หรือทีวีไร้ขอบ เสริมลุคมินิมอลให้บ้านหรือใช้เป็น Digital Art Frame มีโหมด Eye Care Mode 3.0 สำหรับถนอมสายตาป้องกันอาการล้าตา และ Eco-Friendly Smart Power Saving ประหยัดไฟ รักษ์โลก ปรับการใช้งานได้ตามสภาพแวดล้อม

 

Iconic TV Thailand มีทีวีให้เลือกซื้อทั้งรุ่นเริ่มต้นจนไปถึงทีวีระดับ Hi-End ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการเป็นหลัก สามารถเข้าไปเลือกชมทีวีรุ่นต่างๆได้ที่ www.iconicthailand.net